ทนายอัจฉริยะ เป็นทนายที่ประชาชนส่วนใหญ่รู้จักจากคดี ผู้เสียหายเครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เขาได้พาผู้เสียหายกว่า 200 คนไปพูดคุยกับอดีตกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งในขณะที่หารือกันก็ได้เกิดโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ถึงขนาดที่ใช้กำลังกัน แต่ท้ายที่สุดตำรวจก็สามารถเอาผิดดำเนินคดีกับอดีตกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นได้สำเร็จ ทำให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมจากคดีดังกล่าว

     แต่นั่นก็ยังไม่ใช่คดีที่ดังที่สุดของทนายอัจฉริยะ คดีที่ร้อนแรงที่สุดของเขานั่นก็คือ “คดีครูจอมทรัพย์ ลวงโลก” ที่เรียกร้องความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม อ้างตนว่าเป็นแพะรับบาปในคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่งผลให้ต้องออกจากราชการ ไม่ได้รับเงินบำนาญตลอดชีวิต โดยครูจอมทรัพย์ได้ขอรื้อฟื้นคดีใหม่ เนื่องจากมีพยานบุคคลที่รับว่าตนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ในวันเกิดเหตุ ทำให้กระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะตำรวจสั่นคลอนไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง

     ในช่วงนั้นทนายอัจฉริยะ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นตรงกันข้ามกับคนส่วนใหญ่ โดยจับพิรุธครูจอมทรัพย์ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวันเวลาที่เกิดเหตุ ระยะเวลาในการขอรื้อฟื้น จนกระทั่งนายสับ วาปี ถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI และยอมรับสารภาพว่าได้รับจ้างมาเป็นแพะรับผิดแทนครูจอมทรัพย์ โดยหากสำเร็จจะได้รับเงินตอบแทนจำนวน 400,000 บาท และได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานอื่นประกอบสำนวน ทำให้ศาลตัดสินครูจอมทรัพย์ ว่ามีความผิดฐาน “ร่วมกันนำสืบ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จในข้อสำคัญแห่งคดี ในการพิจารณาคดีอาญา และซ่องโจร” ทำให้แฟนคลับและคนที่คิดเห็นไม่ตรงกับทนายอัจฉริยะนั้นกลับมาให้เครดิตกับเขาอย่างล้นหลาม

     นอกจากนี้ทนายอัจฉริยะ ยังได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆที่โด่งดังในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหล่อลื่น Max Nano ที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง และให้ดำเนินคดีกับ เมฆมังกรบิน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งหลักจากที่จำหน่ายสินค้าไปไม่นาน ลูกค้าก็ต่างประสบปัญหาเครื่องพังกันมากมาย จึงทำให้ทนายอัจฉริยะ เป็นที่น่าติดตามในอินเตอร์เน็ทมากขึ้น ด้วยบุคลิกที่เอาจริงเอาจังและความตั้งมั่นที่จะหาความจริง ทำให้คดีล่าสุดเขาได้นำกำลังไปตรวจสอบที่หน้าโรงงานแห่งหนึ่งในแปดริ้ว และเกิดปะทะคารมกันรุนแรง และมีเพจนำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ และแสดงความคิดเห็นว่าทำเกินอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด 

     ด้วยอารมณ์โทสะ ทนายอัจฉริยะ จึงได้นำข้อมูลส่วนตัวของแอดมินเพจดังกล่าวมาประจาน แต่ทว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นไม่เกี่ยวข้องกับแอดมินเพจดังกล่าว ทำให้ความดุดันของเขานำไปสู่ความผิดพลาดและถูกต่อว่าจากสังคมอย่างหนัก แถมยังถูกแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเขาก็ได้ยอมรับความผิดพลาดนั้นออกมาขอโทษกับสังคม และขอยุติบทบาทในการเคลื่อนไหวทางกฎหมายเพื่อจัดการกับปัญหามรสุมที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบ